อยากรวยด้วยการลงทุน...อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว!!!
กลับมาพบกันอีกครั้งกับผม Mr. Phillip คนเดิมที่เพิ่มเติมมา คือ คำแนะนำดีๆ ที่มีให้กับเพื่อนๆ นักลงทุนครับทุกคนครับ เพื่อนๆ เคยซื้อหุ้นตัวเดียวทั้งพอร์ตด้วยความมั่นใจเลยไหมครับ วันที่มันวิ่งขึ้นไปเราก็สบายใจไม่เครียด แต่วันที่มันย่อตัวลงมาเล่นเอาเครียดไปทั้งวัน วันนี้ผมจะมาแชร์วิธีลงทุนยังไงให้ไม่เครียด และมีโอกาสได้ผลตอบแทนอย่างที่ตั้งใจไว้ เอาหล่ะ เรามาทำความรู้จักกับการ Asset Allocation วิธีที่จะจะช่วยให้เราลงทุนแล้วไม่เครียดกันครับ
Asset Allocation คือ การวางแผนกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ทางการเงินหลากหลายประเภท เพื่อจะให้บรรลุเป้าหมายในการลงทุน หรือ ที่เราอาจจะได้ยินจากกูรูหลาหลายคนนั้นพูดกัน คือ อย่าใส่ไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียวกัน เพราะถ้าหากเราเผลอทำตระกร้าตก ไข่ที่เรามีก็จะแตกและเสียไข่ทั้งหมดไป ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าการทำ Asset Allocation เหมือนได้กระจายทั้งโอกาสและความเสี่ยงไปพร้อมๆ กัน ผมขอยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นแบบนี้ครับ
ถ้าหากเรามีเงินลงทุน 100,000 บาท เราทำ Asset Allocation ลงในสินทรัพย์ต่างๆ ออกเป็น 4 ส่วนดังนี้
ส่วนที่ 1 ลงทุนในหุ้นในประเทศ ลงในหุ้นตลาด SET Index 25,000 บาท
ส่วนที่ 2 ลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านกองทุนรวม เช่น หุ้นตลาด Nasdaq Index 25,000 บาท
ส่วนที่ 3 ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง ให้ผลตอบแทนประมาณ 2-2.5% ต่อปี 25,000 บาท
ส่วนที่ 4 ลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน ให้ผลตอบแทนประมาณ 0.3-0.5% ต่อปี 25,000 บาท
ถ้าหากเราเอาทั้งพอร์ตที่เราทำ Asset Allocation มาดูผลตอบแทนในช่วงตันเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
เพื่อนๆ น่าจะได้ติดตามสถาณการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาที่มีปัจจัยผันผวนเรื่อง Bond yield ที่ส่งผลกับทุกสินทรัพย์การลงทุนของโลก ผลตอบแทนของแต่ละส่วนในพอร์ตเป็นแบบนี้ครับ
ตลาด SET Index ปรับตัวขึ้น 3.4%
ตลาด Nasdaq Index ปรับตัวลง 1.87 %
ตารสารหนี้ระยะกลางปรับตัวบวกเล็กน้อยที่ 0.01% (อ้างอิงผลตอบแทนของกองทุน K-CBOND) กองทุนรวมตลาดเงิน นั้นแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยบวกมาที่ 0.000004 %
ถึงจุดนี้เพื่อนๆ อาจจะมีคำถามว่าถ้ าหาเราเลือกตลาดถูกเช่น เลือก SET index ก็จะได้ผลตอบแทนดีที่สุดไม่จำเป็นต้องไปเฉลี่ยผลตอบแทนกับตัวอื่นสิ คำตอบคือใช่ครับ แต่ผมอยากให้เข้าใจว่าตลาดนั้นมีทั้งขึ้นและลง ดังนั้นการกระจุกการลงทุนอาจจะไม่ดีถ้าตลาดปรับตัวลงซึ่งเราไม่สามารถรู้อนาคตได้ว่าวันนี้จะขึ้นหรือลง
ดังนั้น การทำ Asset Allocation ในการลงทุนระยะยาวมีความสำคัญและให้ผลดีและยี่งเรากระจายความเสี่ยงในหลากหลายสินทรัพย์ วันใดสินทรัพย์นึงปรับตัวลงอีกสินทรัพย์จะปรับตัวขึ้นและชดเชยส่วนที่ปรับลงได้ ส่งผลให้เงินลงทุนในพอร์ตของเราบางส่วนยังสามารถเติบโตไปได้ครับ
ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ
Mr. Phillip