PhillipCapital Your Partner in Investment

poems poems

ศูนย์การเรียนรู้
4 เรื่องต้องรู้ ก่อนลงมือ DCA


4 เรื่องต้องรู้ ก่อนลงมือ DCA 

 
กลับมาพบกันอีกแล้วครับกับ Mr. Phillip วันนี้ ผมเอาบทความดีๆ มาฝากก่อนที่เราจะหยุดยาวในช่วงสงกรานต์ ผมจะพูดถึงเรื่องการลงทุนแบบ DCA ซึ่งเป็นทางเลือกลงทุนรูปแบบหนึ่งที่เหมาะกับ นักลงทุนมือใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือนักลงทุนที่ลงทุนอยู่แล้วและอยากวางแผนในระยะยาว รวมถึงคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาว โดยการลงทุนแบบ DCA มีข้อดีมากมาย ทั้งฝึกให้เราเป็นคนมีวินัยในการออมต่อเดือนให้ได้ตามเป้าหมาย ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาและรวมถึงการสร้างสุขยามเกษียณ  
 
DCA คือ Dollar Cost Averaging หรือ การทยอยลงทุนเป็นงวดๆ ในจำนวนเงินที่เท่าๆ กันทุกๆ เดือน โดยไม่ได้สนใจราคาของหุ้นหรือกองทุน เพื่อเป็นการลงทุนระยะยาว เพื่อตอบโจทย์ในวัยเกษียณ หรือเป้าหมายอื่นๆ ที่เราได้วางไว้ เช่น เราตั้งใจที่จะออมหุ้นหรือกองทุน เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ทุกๆ เดือน ซึ่งสามารถซื้อหุ้นหรือกองทุนเดียว หรือกระจายได้หลายชื่อหุ้น หลายประเภทกองทุนก็ได้

เรื่องต้องรู้ ก่อนลงมือ DCA 

1. กำหนดวงเงินที่จะใช้ลงทุนต่องวด (ต่อเดือน) ให้ชัดเจน เราจะได้บริหารจัดการรายได้ เพื่อมาลงทุนได้อย่างต่อเนื่องทุกเดือน โดยต้องไม่บีบรัดตัวเองจนมากเกินไป เช่น ถ้าหากเราเป็นพนักงานบริษัท เงินเดือน 30,000 บาท หักลบรายจ่ายแล้ว มีเงินเหลือเดือนละราวๆ 10, 000 บาท เราควรจะเริ่ม DCA ให้ได้อย่างน้อย 10% ของรายได้ คือ 3,000 บาท เงินที่เหลือนั้น ควรแยกเก็บเป็นเงินออมกรณีฉุกเฉิน เพื่อจะให้เรามีสภาพคล่องในการใช้จ่ายหากมีกรณีฉุกเฉินเกิดขึ้น
 

2. กำหนดวันที่จะลงทุนในแต่ละเดือน ไม่ใช่เรื่องฤกษ์งามยามดีแต่อย่างใดครับ แต่มันเกี่ยวข้องกับวันที่เงินเดือนออกหรือได้เงินก้อนเข้ามาแน่นอน ผมแนะนำให้เลือกหลังวันเงินเดือนออก ไม่เกิน 5-7 วัน โดยเราควรจะ “ออมก่อนใช้” อาจจะหักจากเงินรายได้อย่างที่บอกไปเมื่อข้อที่แล้วสัก 10% เพราะความร่ำรวยมักเริ่มจากการออมและการนำมาลงทุนต่อยอดเสมอเพราะฉะนั้น เราควรหักเงินออมออกจากรายได้ก่อนที่จะคำนึงถึงรายจ่าย เพื่อที่เราจะบริหารจัดการเรื่องรายได้ เงินออม และค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

3. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินทรัพย์ที่เราต้องการลงทุน สิ่งที่เราควรรู้อย่างน้อยก่อนเลือกหุ้นหรือกองทุนรวมที่จะ DCA คือ หุ้นหรือกองทุนที่เราเลือกออม ประกอบกิจการอะไรหรือนโยบายของกองทุนนั้นเป็นอย่างไร และมีผลตอบแทนย้อนหลังเป็นอย่างไร มีการจ่ายปันผลเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นข้อมูลให้เราเห็นว่า แนวโน้มและผลประกอบการหรือผลงานของการบริหารกองทุนในอนาคตจะเป็นอย่างไร เพื่อมาช่วยในการตัดสินใจเลือก อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้เพื่อนๆ นักลงทุนต้องระมัดระวัง คือ ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีว่า ต่อไปในอนาคตธุรกิจหรือ นโยบายการลงทุนนี้จะดีตลอด เมื่อลงทุนไปแล้ว ก็ต้องหมั่นติดตามเทรนด์และการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน เพื่อปรับแผนการลงทุนให้ทันการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
 

4. ท้ายที่สุด คือ เลือกบริษัทหลักทรัพย์ ที่ให้บริการในการลงทุนรูปแบบของ DCA ซึ่งแต่ละที่มีนโยบายแตกต่างกัน สำหรับที่บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป เรามีความแตกต่างจากที่อื่น คือ สามารถทำได้ทั้งออมหุ้น และออมกองทุนรวมจากหลายๆ บลจ. ให้เลือก โดยเริ่มต้นลงทุนเพียงเดือนละ 1,000 บาท โดยหุ้นหรือกองทุนที่สามารถลงทุนได้แบบ DCA จะผ่านการคัดสรรจากนักวิเคราะห์คัดมาให้ก่อน ซึ่งจะมีการ Review ทุก 6 เดือนว่า ยังมีความเหมาะสมกับกับการลงทุนระยะยาวหรือไม่ ถ้าเห็นท่าไม่ดี นักวิเคราะห์ก็จะถอดออกจากลิสต์ที่ให้ DCA เพราะโลกการลงทุนไม่มีอะไรแน่นอน ธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่องมาตลอดหลายปี อาจจะถูก Disrupt ตอนไหนก็ได้ เมื่อพื้นฐานเปลี่ยน เราก็ควรต้องปรับพอร์ตตามนะครับ


มาถึงตรงนี้เพื่อนๆ โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ ก็น่าจะมีแนวทางและเริ่มสนใจการลงทุนแบบDCA กันบ้างใช่ไหมครับ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.phillipsavingplan.com

แล้วพบกันใหม่และขอให้โชคดีในการลงทุนครับ

Mr. Phillip