เทคนิคง่าย ๆ ช่วยมือใหม่ หาหุ้นตัวแรก
เพื่อนๆ ที่กำลังสนใจจะลงทุนในหุ้นหลายคคน คงกำลังประสบกับปัญหาว่าตลาดหุ้นมีหุ้นทั้งหมด 638 บริษัท ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี ว่าควรจะเลือกหุ้นตัวใดเป็นหุ้นตัวแรกที่จะซื้อเข้ามาในพอร์ตหุ้นของตัวเอง แม้ว่าจะอ่านหนังสือเรื่องการลงทุนมาหลายเล่ มก็อาจจะยังไม่แน่ใจ วันนี้ผม Mr. Phillip อยากจะมาแชร์เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกหุ้นตัวแรกมาอยู่ในพอร์ตกันครับ
1. หาหุ้นแบบมองหาจากชีวิตประจำวัน (Bottom-up Approach)
ในช่วงเวลาที่เรายังไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนมากนัก และอยากเริ่มที่จะลงทุนในหุ้นแล้ว ผมอยากจะแนนะนำให้เริ่มต้นจากสิ่งที่เราใช้หรือพบเจอในชีวิตประจำวันกันก่อนเลยครับ ผมขอยกตัวอย่างเป็นช่วงเวลา เพื่อเพื่อนๆ นักลงทุนมือใหม่ได้เห็นภาพกันนะครับ ว่าในชีวิตประจำวันเรามีหุ้นตัวไหนที่เกี่ยวข้องกับเราบ้าง
- ช่วงเช้า – เพื่อนๆ ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่ต้องเดินทางเข้าไปที่ใจกลางเมืองเพื่อที่จะเดินทางไปออฟฟิค การเดินทางคงจะหลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องใช้รถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ซึ่งทั้งรถไฟฟ้าบนดินและรถไฟฟ้าใต้ดิน หุ้นของทั้งคู่ก็สามารถซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มของ บริการ (Service)
- ช่วงกลางวัน – หลังจากที่เราทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว เราอาจจะต้องการของหวานหรือขนมกรุบกรอบเพื่อที่จะกลับไปทำงานอย่างมีความสุขในช่วงบ่าย เราอาจจะต้องแวะไปที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ซึ่งหุ้นร้านสะดวกซื้อ ก็สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มของ บริการ (Service)
- ช่วงเย็น – เราอาจจะไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้ต่างๆ และชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ซึ่งธุรกิจบัตรเครดิตเหล่านี้ก็มีหุ้นที่สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ จะอยู่ในกลุ่มของการเงิน (Finance)
มาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ จะเห็นว่าชีวิตประจำวันของเรามีหุ้นเกี่ยวข้องอยู่ตลอดเวลา การที่เราเริ่มเลือกหุ้นจากชีวิตประจำวันนั้นมีข้อดีอย่างเห็นได้ชัด คือ เราจะรู้ว่าธุรกิจนั้นมีรายได้จากอะไรครับ หลังจากที่เรารู้แล้ว ว่าเรามีหุ้นอะไรเกี่ยวข้องบ้าง เราก็จะต้องเจาะต่อไปที่ ธุรกิจที่เราสนใจมีแนวโน้มการเติบโตเป็นอย่างไร และมุมมองของนักวิเคราะห์ซึ่งเป็นมืออาชีพด้านนี้โดยเฉพาะ ที่ให้ความคิดเห็นต่อบริษัทเป็นอย่างไรเพื่อช่วยในการตัดสินใจครับ
2. หาหุ้นแบบการมองภาพใหญ่ (Top down Approach)
การมองภาพใหญ่ คือ เราเริ่มจากการที่มองว่าอุตสาหกรรมใดมีความน่าสนใจในการลงทุนบ้าง ยกตัวอย่างแบบง่าย ๆในประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นเรื่องของการท่องเที่ยว โดย GDP ของไทย 14% มาจากการท่องเที่ยวถือเป็นสัดส่วนที่มากใน GDP ของประเทศ เราก็จะต้องมองหาอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการที่ประเทศไทยเรามี GDP มาจากการท่องเที่ยว เช่น สนามบิน โรงแรม ร้านอาหาร หรือสายการบิน หรือ ตอนนี้ถ้าหากเราเห็นว่า ล่าสุดนั้นรัฐบาลได้มีการเปิดให้โรงพยาบาลเอกชน สามารถนำเข้าวัคซีนป้องกัน COVID-19 มาเพื่อฉีดให้ประชาชนได้ เราก็เห็นได้ว่ากลุ่มโรงพยาบาลจะได้ประโยชน์ค่อนข้างมาก
หลังจากที่เรารู้และเข้าใจแล้วว่า อุตสาหกรรมใดได้ประโยชน์จากเหตุการณ์ใดบ้าง เราก็ไปเจาะต่อว่า มีหุ้นอะไรบ้างที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เราสนใจ และบริษัทที่เราสนใจมีความสามารถในการทำกำไรอย่างไร และมีแนวโน้มในอนาคตเป็นอย่างไร ซึ่งในส่วนของแนวโน้มในอนาคตอาจจะยากเกินไปสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มหัดลงทุน ส่วนนี้ผมแนะนำให้อ่านบทวิเคราะห์ที่บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ มีข้อมูลให้เราครับ
เพื่อนๆ นักลงทุนมือใหม่จะเห็นว่า ทั้งสองเทคนิคนี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยครับ เพียงแค่เริ่มต้นจากการสังเกตชีวิตประจำวันว่าเราใช้อะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง และเริ่มต้นหาข้อมูล ถ้าหากเพื่อนๆ ไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่ได้มาจากการหาเองนั้นถูกต้องหรือไม่ ให้เราช่วยดูแลเพื่อนๆ ได้ครับ เพียงทัก Inbox มาและเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับหลักทรัพย์ฟิลลิป เรามีทีมงานที่จะคอยเป็น Coach สำหรับมือใหม่โดยเฉพาะเลยครับ
ท้ายสุดอยากให้ทุกครั้งที่เราตัดสินใจซื้อหุ้นเพื่อลงทุน ให้เกิดจากการตัดสินใจของเราเองอย่าเชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูด หรือที่เราจะได้ยินบ่อยๆ หลังจากเริ่มลงทุน คือ “เขาบอกว่าหุ้นตัวนี้ดี”
Mr. Phillip ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ