จะ DCA ในกองทุนรวม ควรเลือกอย่างไร?
ปัจจุบันมีกองทุนรวมให้เลือกลงทุนจำนวนมาก การเลือกกองทุนเพื่อทำ DCA ที่เหมาะสมกับตัวเรา จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำ 3 ขั้นตอน คัดเลือกกองทุนรวมเพื่อ DCA
1. วิเคราะห์โจทย์การลงทุน
การวางแผนให้ชัดเจนเกี่ยวกับโจทย์การลงทุนของเรา เป็นขั้นแรกที่สำคัญมากสำหรับการลงทุน เพราะกองทุนแต่ละชนิดมีความเหมาะสมต่อโจทย์การลงทุนต่างๆ ไม่เหมือนกัน เช่น
- โจทย์ด้านระยะเวลาการลงทุน บางคนมีเวลาลงทุนแค่ระยะสั้น ต้องใช้เงินในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เช่น ในอีก 1 – 3 ปี อาจต้องใช้เงิน กองทุนที่เลือกออมก็ควรจะมีความเสี่ยงที่ต่ำ เช่น กองทุนตราสารหนี้ ขณะที่บางคนมีเวลาลงทุนได้ระยะยาวหลายสิบปี กองทุนหุ้นที่แม้จะมีความเสี่ยงขาดทุนได้สูงในระยะสั้น แต่มีโอกาสเติบโตได้สูงในระยะยาวย่อมเหมาะสมกว่า
- โจทย์ด้านความเสี่ยงที่รับไหว เป้าหมายการลงทุนบางชนิดที่มีความสำคัญสูง อาจไม่เหมาะที่จะรับความเสี่ยง เช่น เป้าหมายการลงทุนเพื่อเป็นสภาพคล่องที่ต้องพร้อมใช้งาน หรือ เป้าหมายการลงทุนเพื่อเป็นทุนการศึกษาบุตร เป้าหมายเหล่านี้ค่อนข้างไม่เหมาะกับการลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง
- โจทย์ความต้องการด้านกระแสเงินสด สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดกลับมาในระหว่างทางของการลงทุน การเลือกกองทุนรวมที่มีนโยบายการจ่ายปันผลย่อมตอบโจทย์ได้ดีกว่า ขณะที่ถ้าต้องการสะสมเงินลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว จะเหมาะกับกองทุนที่ไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลมากกว่า
2. วิเคราะห์พื้นฐาน/ศักยภาพ ของสินทรัพย์ลงทุน
แม้การ DCA จะช่วยเฉลี่ยความเสี่ยงของการเข้าลงทุน และช่วยสร้างวินัยการออม แต่สิ่งที่สำคัญมากไม่แพ้กัน คือ การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตที่ดี ถ้าเราเลือกลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ก็ต้องมั่นใจว่า หุ้นที่กองทุนกำลังลงทุนเป็นกลุ่มที่มีพื้นฐานดี มีศักยภาพเติบโตต่อไปได้ในระยะยาว หรือถ้ากำลังลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ก็ต้องมั่นใจว่าเป็นตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดี ความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ต่ำ
3. วิเคราะห์ผลการดำเนินงานเชิงเปรียบเทียบ
ปัจจุบันในอุตสาหกรรมกองทุน มีกองทุนที่มีความคล้ายคลึงกันอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ถ้าพูดถึงกองทุนหุ้นจีน หรือกองทุนหุ้นเทคโนโลยี ก็มีกองทุนหลายสิบกองให้เลือก และแต่ละกองทุนก็มีผลการดำเนินงานในอดีตที่ดีมากน้อยแตกต่างกัน ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานในอดีตจะมิใช่สิ่งการันตีผลการดำเนินงานในอนาคต แต่ข้อมูลเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์ที่พอจะทำให้เราเห็นภาพได้ว่า กองทุนที่เรากำลังจะเลือกลงทุนนั้น ในอดีตสามารถทำผลตอบแทนที่ดีอยู่สม่ำเสมอหรือไม่ มีความผันผวนที่มากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับกองทุนอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน หรือ มีประวัติเคยขาดทุนหนักๆ มากน้อยเพียงใด นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลในอดีตเหล่านี้มาเปรียบเทียบ เพื่อใช้ตัดสินใจเลือกกองทุนที่มีความเหมาะสมกับตนเองได้
เมื่อเราจะเริ่มต้นลงทุน สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่จะพลาดไม่ได้ นั้นคือ การกระจายความเสี่ยงที่ดี การลงทุนแบบจัดพอร์ตกองทุนรวม ประมาณ 3 – 5 กองทุน ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยให้การกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กองทุนแนะนำสำหรับ DCA
PWIN ลงทุนในหุ้นนวัตกรรมทั่วโลก เน้นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพดี โอกาสเติบโตแข็งแกร่งตามทิศทางของเมกะเทรนด์ ทั้งยังเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินการโดดเด่น เมื่อเทียบกับกองทุนหุ้นทั่วโลกด้วยกัน
MCHINA ลงทุนหุ้นจีน ที่เน้นหุ้นจีนกลุ่ม New China Economy ซึ่งมีโอกาสเติบโตได้ดีตามแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน จัดเป็นหุ้นที่ศักยภาพโดดเด่นจากฝั่ง Emerging Market ที่นำมาจัดพอร์ตลงทุนควบคู่กับ PWIN เสริมการกระจายความเสี่ยงที่ดียิ่งขึ้นได้ อีกทั้งนักลงทุนยังสามารถเลือกคลาสที่มีการจ่ายเงินปันผลได้ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องระหว่างทางของการลงทุน
KFGBRAND ลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพสูง มีแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่ง ความได้เปรียบทางการแข่งขันสูง ยากที่จะลอกเลียนแบบ โดยนักลงทุนยังสามารถเลือกคลาสที่มีการจ่ายเงินปันผลได้ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องระหว่างทางของการลงทุน
MRENEW ลงทุนหุ้นทั่วโลกในธีมธุรกิจพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นธีมแห่งอนาคต ที่กำลังได้รับการสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลายตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ นักลงทุนยังสามารถเลือกคลาสที่มีการจ่ายเงินปันผลได้ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องระหว่างทางของการลงทุน
KFIXEDPLUS-A กองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี เหมาะกับโจทย์การลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ หรือ มีระยะเวลาลงทุนไม่ยาวมาก เพียง 1-3 ปีเท่านั้น
#DCAกองทุนรวม กับ Phillip Fund SuperMart โทร. 02-635-1718