สวัสดีครับเพื่อนๆ นักลงทุน กลับมาพบกันอีกครั้งกับผม Mr.Phillip วันนี้ผมจะมาคลายข้อสงสัยของเพื่อนๆนักลงทุนมือใหม่ หลายๆ ท่านที่ชอบฟังนักวิเคราะห์พูดในตอนเข้าทุกเช้าเรื่องของธีมการลงทุนในแต่ละวัน เพื่อนๆ อาจจะเคยได้ยินว่า Domestic play หรือ Global play วันนี้ผมจะอธิบายให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจว่า Global play และ Domestic play คืออะไร และ ทั้งคู่เคลื่อนไหวในทิศางเดียวกันหรือต่างกันอย่าไร เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
 

          หุ้น “Global play” คือ หุ้นกลุ่มที่ผลประกอบการขึ้นกับลักษณะเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก พึ่งพิงสภาพเศรษฐกิจในประเทศน้อย เช่น กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และ สินค้าโภคภัณฑ์ ส่งออก และท่องเที่ยว ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ คือ ด้วยสภาววะการแพร่ระบาด COVID-19 ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2019 ทำให้ความต้องการในการบริโภคน้ำมันในการใช้ในอุตสาหกรรมลดลง เมื่ออุปสงค์หรือที่เราเรียกว่า ความต้องการในการบริโภคลดลงแต่ปริมาณการผลิตยังไม่มีการปรับลดลงก็ส่งผลให้ราคาของน้ำมัน มีการปรับตัวลงลง การที่ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลงก็เป็นผลให้ความสามารถในการทำกำไรของของหุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกน้ำมันลดลงตาม ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาหุ้น
 

          อีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนในช่วง COVID-19 กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวนักลงทุนทุกท่านน่าจะพอทราบกันอยู่แล้วว่า หนึ่งในแกนหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย คือ การท่องเที่ยว ซึ่งคิดเป็นราวๆ 14 % ของ GDP ไทยทั้งหมด ซึ่งกลุ่มท่องเที่ยวรายได้หลักมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งการระบาดของไวรัสทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้ รายได้ของบริษัทที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวก็แทบจะหายไป 90% จึงส่งผลกระต่อราคาหุ้นของบริษัทอย่างชัดเจน
 

         หุ้น“Domestic Play” คือ หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หรือ หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่นักวิเคราะห์มักกล่าวถึงในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เนื่องจากกลุ่มนี้จะได้รับปัจจัยบวกจากการลงทุนของภาครัฐ หรือมาตราการกระตุ้นเศรษฐกกิจต่างๆ ซึ่งถ้าหากดูในปัจจุบันรัฐบาลก็มีนโยบายกระตุ้นหลัก 3 ด้าน
 

1. ด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน: เช่น รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าความเร็วสูง การพัฒนาถนน เป็นต้น
2. ด้านการอุปโภค-บริโภค: การกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการของรัฐ
3. ด้านการท่องเที่ยว: ผ่านโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทย

          ยกตัวอย่างเช่น รัฐบาลจำเป็นจะต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศดังนั้นจะต้องมีการใช้งบประมาณในการพัฒนาถนนหนทาง โดยรัฐก็เปิดประมูลโครงการบริษัทที่ได้รับงานประมูลไปก็จะได้ประโยชน์จากงานก่อสร้างของรัฐ ซึ่งทำให้บริษัทมีงานและก่อให้เกิดรายได้ของบริษัทที่ได้งาน ซึ่งไม่ว่าจะกระตุ้นด้วยรูปแบบใด ก็จะมีภาคธุรกิจที่ได้รับอานิสงค์ด้วย

          นักลงทุนพอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่า หุ้นกลุ่ม “Global play” คืออะไรที่ได้รับผลกระทบหลักจากภาวะเศรษฐกิจโลก หรือ กำไรของบริษัทต้องพึ่งพาต่างชาติ ดังนั้นถ้าหากเกิดภาวะเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน หรือ ภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสแบบในตัวอย่าง ก็จะส่งผลต่อราคาหุ้นของบริษัท ส่วน หุ้น “Domestic Play” ก็พึ่งพาการกระตุ้นจากมาตราการของรัฐหรือการลงทุนจากภาครัฐเป็นหลัก หลังจากนี้เราน่าจะเข้าใจมากขึ้นแล้วเวลานักวิเคราะห์พูดถึง “Global play” หรือ “Domestic Play” เราควรสนใจกลุ่มธุรกิจใด และ หุ้นในกลุ่มไหน

ขอให้โชคดีในการลงทุนนะครับ

ถ้าหากเพื่อนๆ สนใจที่จะเริ่มลงทุนหรือเป็นมือใหม่ ที่อยากจะเริ่มลงทุนโดยมีมืออาชีพคอยให้คำแนะนำ
สามารถกรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ ได้ที่ Link นี้ได้เลยครับ https://forms.gle/v93V5ANPu47PzHHR7