PhillipCapital Your Partner in Investment

poems poems

ศูนย์การเรียนรู้
เมื่อมีเงินก้อน…ระหว่างลงทุนกับโปะหนี้ เลือกอะไรดี?


เมื่อมีเงินก้อน…ระหว่างลงทุนกับโปะหนี้ เลือกอะไรดี?
 

คำถามว่าลงทุนก่อนหรือโปะหนี้ดี สำหรับเพื่อน ๆ บางคนอาจเหมือนคำถามว่า ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน เรียกได้ว่าพอมีเงินก้อนโตหน่อยเข้ามา ก็คิดแล้วคิดอีก ไม่สามารถตัดสินใจได้สักที เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น วันนี้ Mr.Phillip มีเกณฑ์ง่าย ๆ ช่วยการตัดสินใจให้กับเพื่อน ๆ ได้นำมาใช้ประกอบการตัดสินใจกันครับ 
 
1. ดูสัดส่วนหนี้สินนและทรัพย์สิน

ก่อนที่จะเริ่มตัดสินใจ อยากให้เพื่อน ๆ ลองจดรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่มีออกมาก่อน สำหรับทรัพย์สินนั้น ลองแยกเป็นทรัพย์สินที่มีสภาพคล่อง เช่น เงินสด กองทุนตลาดเงิน กองทุนตราสารหนี้ แล้วประมาณดูคร่าว ๆ ครับ ว่ามีเงินในส่วนของทรัพย์สินเท่าไร ส่วนหนี้สิน แยกออกมาเป็นหนี้สินระยะยาว เช่น หนี้บ้าน หนี้รถ กับหนี้สินระยะสั้น เช่น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อนอกระบบ (ถ้ามี) จากนั้นคำนวณสัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สิน โดย
 
 
สัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สิน = (มูลค่าหนี้สินที่มี / มูลค่าทรัพย์สินที่มี) x 100

ถ้าหากมากกว่า 50% ก็เข้าเกณฑ์ที่จะพิจารณานำเงินที่ได้ไปปลดหนี้ เพื่อลดความเสี่ยงลงครับ แต่หากยังไม่ถึง 50% ความเสี่ยงก็ยังอยู่ในระดับที่พอยอมรับได้ครับ
 
2. ดูกระแสเงินสด

หลังจากทำข้อ 1 แล้ว อยากให้เพื่อน ๆ ลองพิจารณาดูว่า กระแสเงินสดตอนนี้ “คล่อง” ดีหรือเปล่า หากสภาพคล่องไม่ดี ติดขัดตรงไหน การนำเงินไปโปะหนี้นั้น สามารถลดภาระผ่อนชำระต่อเดือนลงได้หรือไม่ หากสภาพคล่องยังไม่ดี อาจแนะนำให้เก็บเงินไว้เป็นสภาพคล่อง เพื่อลดปัญหาขาดสภาพคล่องอันนำมาสู่การสร้างหนี้เพิ่มเติมในอนาคต แต่ถ้าสภาพคล่องดีแล้ว ไปพิจารณาข้อ 3 กันต่อเลยครับ
 
 
3. ดูผลตอบแทน
 
เอาล่ะครับ ข้อสุดท้าย เพื่อน ๆ มาพิจารณากันว่าผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนเทียบกันกับอัตราดอกเบี้ยแล้ว และอย่าลืมบวกความเสี่ยงด้วยครับ เช่น หากอัตราดอกเบี้ยของหนี้ที่จะโปะ เป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ย 24% ต่อปี แต่ผลตอบแทนการลงทุนอยู่ที่ 3% ต่อปี หรือกลับกัน อันนี้ก็คงคิดไม่ยากครับ แต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยของหนี้ที่จะโปะ อยู่ที่ 3% แต่อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนอยู่ที่ 4-5% ต่อปี อันนี้อาจต้องมาดูความเสี่ยงเพิ่มเติมว่าความผันผวนจากการลงทุนนั้นเพื่อน ๆ รับได้หรือไม่ หากรับได้จะลงทุนก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าไม่จะนำเงินไปโปะหนี้ก็ไม่ผิดครับ
 
สรุปนะครับ ก่อนที่จะตัดสินใจนำเงินไปลงทุนหรือโปะหนี้ นอกจากผลตอบแทนที่จะได้แล้ว Mr.Phillip อยากให้เพื่อน ๆ คิดถึงมุมมองด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย โดยเฉพาะเรื่องของกระแสเงินสดว่าเพียงพอหรือไม่ และความเสี่ยงด้านหนี้สินของตัวเองครับ เพราะหากเรามองเฉพาะมุมมองของผลตอบแทน จนลืมความเพียงพอของกระแสเงินสดหรือความเสี่ยงด้านหนี้สินของเราแล้ว เมื่อชีวิตประสบปัญหา อาจต้องไปกู้เงินเพิ่มมากกว่าที่โปะไปเสียด้วยซ้ำ
   
หากเพื่อนๆ สนใจจะเริ่มลงทุน และอยากได้ผู้แนะนำการลงทุนที่พร้อมดูแลมือใหม่ ขอชวนมาเปิดบัญชีกับหลักทรัพย์ฟิลลิปกันนะครับ แจ้งรายละเอียดให้เราติดต่อกลับได้ที่ : https://forms.gle/v93V5ANPu47PzHHR7