สวัสดีครับ เพื่อนๆ นักลงทุนมือใหม่ที่พึ่งเข้าสู่สนามการเทรด หลายๆ คนที่เทรดมาช่วงหนึ่งอาจจะกำลังมองหาหรือเปลี่ยนแนวทางในการเทรด วันนี้ผมจะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันครับว่านักลงทุนสาย Fundamental เขาใช้อะไรเป็นตัวตัดสินใจในการเลือกหุ้นบ้าง
 

        เรามาเริ่มกันที่แนวความคิดและความเชื่อของนักลงทุนสาย Fundamental กันก่อนเลยครับ นักลงทุนสาย Fundamental เป็นนักลงทุนที่มีความเชื่อว่า การซื้อหุ้นเปรียบเสมือนการซื้อกิจการ เชื่อในความสัมพันธ์ของผลประกอบการกับราคาหุ้น คิดว่าผลประกอบการจะต้องสะท้อนออกมาเป็นตัวเลขซึ่งตัวเลขนั้นคือ ”ราคาหุ้น” โดยนักลงทุนสาย Fundamental มักจะเลือกลงทุนในการเติบโตในระยะยาว เราสามารถแบ่งย่อยนักลงทุนสาย fundamental เป็นสองแบบย่อยอีกด้วย
 

1. นักลงทุนสาย Fundamental ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี กลุ่มนี้จะชอบหุ้นที่สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ เพราะฉะนั้นกลุ่มนี้เริ่มเลือกหุ้นที่บริษัทมีกำไรอย่างต่อเนื่องและค่อนข้างคงที่ และอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือ จะต้องทนทานต่อความผันผวนต่อตลาด ราคามักไม่ค่อยผันผวนแม้เกิดปัจจัยต่างๆ
 

2. นักลงทุนสาย Fundamental ที่เน้นลงทุนในหุ้นเติบโตได้ดี กลุ่มนี้จะชอบหุ้นที่กิจการมี Growth story ที่ค่อนข้างชัดเจน เช่น ธุรกิจร้านขนม ที่อนาคตจะมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง หรือ ธุรกิจที่จะมีการเติบโตโดดเด่น อนาคตจะมีความจำเป็นที่ทุกคนจะต้องใช้ เช่น Cybersecurity แต่หุ้น Growth เหล่านี้มักจะมีค่า P/E Ratio ที่ค่อนข้างสูง
 

ซึ่งทั้งสองกลุ่มจะมีจุดร่วมกันในการศึกษาเข้าซื้อหุ้นอยู่ 3 ประเด็นด้วยกัน คือ
 

1. ศึกษาข้อมูลปัจจัยพื้นฐานของหุ้น โดยดูทั้งข้อมูลความสามารถในการแข่งขันภายในอุุตสาหกรรม แนวโน้มความต้องการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของสินค้า หรือ บริการของธุรกิจ รวมถึงมุมมองและความสามารถของผู้บริหาร ส่วนของข้อมูลด้านตัวเลข นักลงทุนสาย Fundamental จะดู งบการเงิน (งบกำไรขาดทุน งบดุล งบกระแสเงินสด) อัตราส่วนทางการเงิน ต่างๆ เช่น P/E, D/E, ROA, ROE ความสามารถในการชำระดอกเบี้ยเป็นต้น
 

2. ติดตาม ตรวจสอบ ฐานะทางการเงินและประเมินผลการดำเนินงาน ซึ่งในข้อนี้ถ้าหากบริษัทไม่สามารถสร้างกำไร หรือผลงานผิดคาดการณ์ที่ได้วางไว้ นักลงทุนสาย Fundamental จะทำการเจาะเข้าไปในตัวของรายงานงบการเงิน ว่าปัญหาที่ทำให้กำไรหรือผลงานผิดคาดการณ์เกิดจากปัจจัยภายนอกหรือภายใน ถ้าหากเกิดจากภายในเช่นมีการเปลี่ยนผู้บริหารหรือนโยบายการดำเนินงาน อาจจะทำการขายหุ้นดังกล่าวออกไปได้

3. ไม่ Biased คือไม่ยึดติดว่าหุ้นตัวนี้เคยทำกำไรให้มากเท่าใด อยากถือต่อเพราะเป็นหุ้นลูกรัก เมื่อถึงจุดที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างหรือกำไรของกิจการ ควรขายต้องขาย เช่น ราคา Overprice พื้นฐานเปลี่ยน หรือต้องหมุนเงินออกเนื่องจากมีโอกาสที่ดีกว่าเข้ามา

มาถึงจุดนี้ เพื่อนๆ น่าจะพอเห็นคอนเซ็ปแล้วใช่ไหมมครับว่า นักลงทุนที่เป็นสาย Fundamental แต่ละกลุ่มเขาดูอะไรมาประกอบในการตัดสินใจในการเลือกซื้อหุ้นเข้าสะสมในพอร์ต ทีนี้เราสามารถปรับใช้ถ้าหากว่าสาย Fundamental เป็นแนวทางที่ใช่ที่เราอยากเป็นกันนะครับ แต่สำหรับมือใหม่ที่อยากจะหามืออาชีพคอยเป็นบัดดี้คอยให้คำแนะนำในการเทรดของท่านสามารถใช้บริการกับหลักทรัพย์ฟิลลิป ได้เลยครับ เรามีทีมงานคอยดูแลและมีหลักสูตรสัมมนาออนไลน์ ที่จัดอย่างสม่ำเสมอสำหรับมือใหม่โดยเฉพาะ แจ้งความประสงค์ให้เราติดต่อกลับได้ที่ https://forms.gle/v93V5ANPu47PzHHR7

สอบถาม และติดตามข่าวกิจกรรม สาระความรู้ ผ่าน Line OA: https://lin.ee/ikRG3vT

สนใจอ่านบทความอื่นๆ https://www.poems.in.th/learning_detail.aspx?id=352

#มือใหม่หัดลงทุน #ลงทุนหุ้น #ลงทุนให้รุ่งกับมิสเตอร์ฟิลลิป