PhillipCapital Your Partner in Investment

poems poems

ศูนย์การเรียนรู้
Hidden Agenda ในงบการเงินแบบไหน ที่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม!!

Hidden Agenda ในงบการเงินแบบไหน
ที่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม!! 

กลับมาพบกับผม Mr. Phillip อีกแล้วครับ เราผ่าน 1 ส่วน 4 ของปี 2565 มาแล้ว ช่วงนี้จะต้องเรียกว่า เข้าสู่ฤดูกาลของงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ที่จะต้องทะยอยออกมาตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป นักลงทุนมือใหม่ส่วนใหญ่อาจจะสนใจแค่ว่า บริษัทที่เราให้ความสนใจนั้นมีกำไรมากน้อยเท่าไร และก็เลือกที่จะลงทุนจากผลกำไรที่เคยเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น วันนี้เรามาดูกันครับว่า Hidden agenda หรือ จุดลับซ่อนเร้น ในงบการเงินมีอะไรบ้างที่นักลงทุนมักมองข้าม

ก่อนอื่นเรามาทบทวนกันก่อนว่า งบการเงินของบริษัท มีกี่ส่วนอะไรบ้างและแต่ละส่วนสะท้อนอะไรบ้าง มาดูกันครับ งบการเงินหลักๆ ที่ทุกท่านมักจะสนใจ มี 3 ส่วนด้วยกันได้แก่
 
1. งบดุล หรือ งบแสดงฐานะทางการเงิน

ชื่อของงบบอกเราอยู่แล้วว่า เป็นงบที่สะท้อนว่าบริษัทมีฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร โดยภายในงบมีสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ ทั้งสามส่วนนี้ทำให้เรารู้ว่าฐานะการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งแค่ไหน เป็นอย่างไรบ้างในแต่ละสถานการณ์
 
2. งบกำไรขาดทุน

เป็นส่วนที่แสดงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท โดยงบส่วนนี้แสดง ตัวเลขรายได้ ค่าใช้จ่าย และกำไร/ขาดทุน โดยนักลงทุนทั่วไปสามารถใช้ส่วนนี้ประกอบกับการให้แนวทางของการดำเนินธุรกิจจากผู้บริหารมาช่วยพยากรณ์แนวโน้มได้
 
3. งบกระแสเงินสด

งบส่วนนี้จะบอกว่า กระแสเงินสดที่เข้าและออกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง เช่น กระแสเงินสดจากการลงทุน กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน งบกระแสเงินสดนี้จะสะท้อนถึงสภาพกิจการว่ามีเงินหมุนหรือสภาพคล่องมากน้อยเท่าใด
 
            โดยทั่วไปนักลงทุนมือใหม่ส่วนใหญ่จะสนใจแค่ว่า งบ 3 ส่วนข้างต้นนี้สำคัญและดูเพียงคร่าวๆ ว่าบริษัทมีกำไรเติบโตเท่านั้นโดยอาจจะไม่เคยเจาะลึกว่ารายได้นั้นมาจากส่วนใดบ้าง ซึ่งตรงนี้มักจะเป็นส่วนที่ทำให้นักลงทุนมือใหม่เกิดข้อผิดพลาดในการลงทุน

วันนี้ผม Mr. Phillip จะมานำเสนอ คำว่า รายได้พิเศษ ซึ่งเป็น Hidden Agenda ที่นักลงทุนมือใหม่อาจไม่เคยเจาะลึกลงไปในงบกำไรขาดทุน จะไม่ทราบเลยว่ามี รายได้พิเศษ ที่อยู่ในนั้นด้วย ก็อาจจะทำให้พลาดเลือกหุ้นที่อยู่ดีๆ งบการเงินก็โตขึ้นจากเดิมที่เคยติดลบ หรือ อยู่ดีๆ ก็โตกระโดดขึ้นมา เลยเลือกตัดสินลงทุนไปเพราะคิดว่า บริษัทนั้นฟื้นตัวกลับมาแล้วจากภาวะขาดทุน หรือเข้าใจว่า บริษัทมีกำไรมากขึ้น ซึ่งแท้จริงแล้วงบการเงินที่บวกขึ้นมา งอกเงยขึ้นมาจากรายได้พิเศษซึ่งอาจจะมาจากการขายสินทรัพย์เพื่อนำไปชดใช้หนี้ หรือขายสินทรัพย์บางส่วนออกแล้วเงินเหลือ งบการเงินจึงพลิกจากลบมาเป็นบวก จึงอาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ว่าธุรกิจกลับมาจากขาดทุนได้ จึงเลือกลงทุนซึ่งเป็นข้อผิดพลาด ดังนั้นนักลงทุนไม่ควรมองข้ามเรื่องของ รายได้พิเศษในงบการเงิน

อีกหนึ่งส่วนที่สำคัญ ที่นักลงทุนที่ไม่สนใจเลย คือ หมายเหตุประกอบงบการเงิน แค่ชื่อนี้เพื่อนๆ ก็แทบจะไม่เคยได้ยินใช่ไหมครับ ซึ่งความสำคัญของมันสวนทางกับความสนใจของนักลงทุนทั่วไป เพราะว่า

หมายเหตุประกอบงบการเงิน แสดงวิธีการทางบัญชีว่า ใช้มาตราฐานบัญชีแบบใดและสมมุติฐานอะไร และ แสดงถึงความโปร่งใสของบริษัท รวมถึงบอกความสามารถในการแข่งขันเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง แต่ที่มากกว่านั้น คือ ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน มักจะบอกว่าบริษัทที่เราสนใจลงทุนกำลังมีคดีความฟ้องร้อง หรือ จะต้องชดเชยค่าเสียหายส่วนคดีความเท่าไร ซึ่งการมีคดีความฟ้องร้องและต้องชำระเงินจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์บริษัทและงบการเงินของบริษัทโดยตรง

มาถึงตรงนี้เพื่อนๆ พอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่า Hidden Agenda ที่มีในงบการเงิน ทั้งรายได้พิเศษ และ หมายเหตุประกอบงบการเงินมีความสำคัญอย่างไร ผมไม่อยากให้นักลงทุนมือใหม่ผิดพลาด เพราะฉะนั้นอย่าลืมอ่านทั้งรายได้พิเศษและหมายเหตุประกอบงบการเงินก่อนที่จะเข้าลงทุนในหุ้นบริษัทใดๆ กันด้วยนะครับ

ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ
 
หากเพื่อนๆ มือใหม่ สนใจเริ่มต้นลงทุน บล.ฟิลลิป มีทีมงานคอยดูแลและมีหลักสูตรสัมมนาออนไลน์ ที่จัดอย่างสม่ำเสมอสำหรับมือใหม่โดยเฉพาะ
แจ้งความประสงค์ให้เราติดต่อกลับได้ที่ https://forms.gle/v93V5ANPu47PzHHR7

สอบถาม และติดตามข่าวกิจกรรม สาระความรู้ ผ่าน Line  

#มือใหม่ลงทุน #นักลงทุนมือใหม่ #อ่านงบการเงิน