4 อารมณ์ความรู้สึก ที่อาจสร้างปัญหาการลงทุน และวิธีหลีกเลี่ยง
มีหลาย ๆ สิ่งในชีวิตประจำวันที่ดูธรรมดา เรียบง่าย แต่พอทำจริงแล้วกลับกลายเป็นเรื่องยาก เช่น การขับรถ การออกกำลังกาย ที่สามารถกลายเป็นเรื่องยากได้เมื่อมีอารมณ์มาเกี่ยว ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะนักลงทุนหุ้น
1. มองทุกอย่างเป็นบวก
ในช่วงที่สถานการณ์ดี ตลาดขาขึ้น จิตใต้สำนึกของนักลงทุนก็จะมองทุกอย่างเป็นบวก พร้อมซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์ที่เล็งไว้ ไม่ว่าจะประเมินศักยภาพของหุ้นหรือไม่ก็ตาม
2. เริ่มวิตกกังวล
เวลาที่ตลาดเข้าใกล้จุดพีค ที่คาดเดาได้ยาก การเปลี่ยนแปลงจะตามมาจะทำให้นักลงทุนรู้สึกวิตกกังวลตัดสินใจไม่ถูก บ้างก็คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงช่วงสั้น ๆ บ้างก็ไม่พร้อมจะอยู่ดูพร้อมออกทันทีที่ทำได้
3. อาการจิตตก
พอเข้าสู่ช่วงตลาดขาลง ภาวะจิตตกจะเริ่มแพร่ขยายในหมู่นักลงทุน โดยเฉพาะเวลาสินทรัพย์ตกลงไปหนัก พร้อม ๆ กับการที่นักลงทุนคนอื่นทำการ Cut Loss ออกจากตลาดไปเรียบร้อยแล้ว
4. ท้อแท้ รอคอยความหวัง
มักจะมาในช่วงตลาดเริ่มรีบาวน์ นักลงทุนจะยังคงวิตกกังวลและระมัดระวังอยู่ ความท้อแท้จากการขาดทุน จะทำให้ไม่กล้าลงทุนในเวลาที่เหมาะสม พอรู้ตัวอีกทีตลาดก็เข้าขาขึ้นจนลงทุนไม่คุ้มแล้ว
ไม่ว่าจะเคยมีประสบการณ์ตรงหรือรับรู้ผ่านคนใกล้ตัว ก็ถือเป็นบทเรียนที่ดีในการลงทุน แต่ถ้าไม่ต้องการให้เกิดกับตัวหรือเกิดซ้ำ ๆ การลงทุนแบบ Dollar Cost Average (DCA) จะช่วยเลี่ยงอารมณ์ความรู้สึกทั้ง 4 นี้ได้
เพราะการลงทุนแบบ DCA จะเป็นการลงเงินในจำนวนเท่าเดิม ทำได้ทั้งรายเดือนหรือรายไตรมาส โดยไม่ต้องสนใจราคาหุ้น เป็นการตัดปัญหาเรื่องอารมณ์ที่ไม่แน่นอนออก แต่ใช้ความมีวินัยในการลงทุนแทน โอกาสทำกำไรก็จะสูงกว่าการลงเงินครั้งเดียว เพราะแต่ละรอบที่ลงเงินแบบ DCA ในสินทรัพย์ มักจะมีช่วงราคาที่ต่างกันไปตามวัฏจักรของตลาด เลือกลงทุนแบบ DCA กับ บล. ฟิลลิปได้ ที่มีทั้งบัญชีออมหุ้นหรือออมกองทุน แจ้งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ส่งข้อมูลเพิ่มเติม คลิก http://bit.ly/2qFxP0i หรือติดต่อที่เบอร์ 02 635 1666 Credit: Claire Tan ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนักลงทุนแบบ Share Builders Team.
https://www.poems.com.sg/market-journal/the-4-stages-of-emotional-investing-to-embrace-or-to-avoid/ |