เมื่อแวดวงยานยนต์กำลังปรับเปลี่ยนจากยุคสันดาปภายในสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า แหล่งพลังงานที่ใช้ขับเคลื่อนเองก็ต้องเปลี่ยนตาม ซึ่งกำลังเป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ แบตเตอรีของรถ EV ส่วนมากยังคงใช้แร่ลิเธียมเป็นส่วนประกอบหลัก สร้างโอกาสเหมาะกับการลงทุนจนกว่าจะมีการวิจัยและปรับใช้วัตถุดิบอื่นทดแทน

แต่เดิมบริษัทเหมืองลิเธียมมีจำนวนน้อยมาก มีเจ้าใหญ่เพียง 3 เจ้า คือ Albemarle (NYSE:ALB), Sociedad Quimica y Minera de Chile (NYSE:SQM) และ FMC (NYSE:FMC) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีการแข่งขันในภาคธุรกิจนี้มากขึ้น โดยมีจีนเข้ามาร่วมกินส่วนแบ่งการตลาดตามหลังออสเตรเลียและชีลี

1. Albemarle (NYSE: ALB)
 

Albemarle คือหนึ่งในบริษัทเหมืองลิเธียมเจ้าใหญ่ของโลก ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 5,000 คน และฐานลูกค้าใน 100 ประเทศทั่วโลก นอกจากแร่ลิเธียมก็ยังมีการผลิตโบรมีน และให้บริการด้านเคมีภัณฑ์กับอุตสาหกรรมยา

Albemarle มีแหล่งผลิตลิเธียมจากน้ำเกลือใกล้ๆ ทะเลสาบ Silver PEak ในสหรัฐฯ และใน Salar de Atacama ประเทศชิลี ปัจจุบันบริษัทได้รับอนุญาตให้ผลิตลิเธียมคาร์บอนเนต 145,000 จนถึงปี 2043

มูลค่าทางการตลาด 28.68 พันล้านดอลลาร์

 

2. Tianqi Lithium (SHE: 002466)
 

Tianqi Lithium (เทียนฉี ลิเธียม) เป็นบริษัทในเครือ Chengdu Tianqi Industry Group ทำธุรกิจเหมืองขุดเจาะลิเธียมเจ้าใหญ่ที่สุดของโลก มีแหล่งขุดเจาะที่ออสเตรเลีย ชิลี และในจีน บริษัทได้พัฒนาโรงงานแปลงสภาพลิเธียมไฮดรอกไซด์ที่ตอนใต้ของ Perth ประเทศออสเตรเลีย

เมื่อราคาของลิเธียมถีบตัวสูงขึ้นในปี 2021 ก็ส่งผลให้ Tinqi ทำกำไรเพิ่มได้ในไตรมาสสอง ซึ่งถือเป็นกำไรสุทธิสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 และต่อมาได้เข้าตลาดหุ้นฮ่องกงในเดือน กรกฎาคม 2022 ระดมทุนได้ถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ ในอีก 3 ปีข้างหน้า Tinqi มีแผนเพิ่มการผลิตลิเธียมให้ได้ 110,000 ตัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 45,000 ตัน

มูลค่าทางการตลาด 27.24 พันล้านดอลลาร์

 

3. Jiangxi Ganfeng Lithium (SHE: 002460)
 

Jiangxi Ganfeng Lithium หรือ Ganfeng Lithium (ก้านเฟิง ลิเธียม) เป็นบริษัทผู้ผลิตสารประกอบลิเธียมสัญชาติจีนเจ้าใหญ่ของโลก รวมถึงขุดแร่โลหะลิเธียมด้วย ก้านเฟิงเป็นคู่ค้ากับ Tesla, BMW, Volkswagen และ ผู้ผลิตแบตเตอรีสัญชาติเกาหลีอย่าง LG Chem

ในปี 2021 ก้านเฟิงตกลงซื้อหุ้นบริษัท Mexico-focused Bacanora Lithium เป็นจำนวน 264.5 ล้านดอลลาร์ รวมถึงซื้อสัมปทานเหมืองลิเธียมในประเทศมาลี อีก 130 ล้านดอลลาร์ และยังซื้อทะเลสาบน้ำเค็มในจีนที่ราคา 1.47 พันล้านหยวน ส่วนปีนี้ก็มีแผนซื้อบริษัท Lithea ที่เป็นเจ้าของทะเลสาบน้ำเค็มในอาร์เจนติน่า 

มูลค่าทางการตลาด 26 พันล้านดอลลาร์

 

4. SQM (NYSE: SQM)
 

Sociedad Quimica y Minera de Chile หรือ SQM กล่าวว่าตนคือผู้นำด้านการลิเธียมและอนุพันธ์ จากการครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 19% มีสำนักงานอยู่ใน 20 กว่าประเทศ มีลูกค้าอยู่ 110 ประเทศทั่วโลก บริษัท SQM มี 5 ส่วนธุรกิจ ตั้งแต่ลิเธียม โพแทสเซียม ไปจนถึง สารอาหารสำหรับพืช

SQM ดำเนินธุรกิจในชิลีเป็นหลัก และกำลังพัฒนาโครงการเหมืองลิเธียมในภูเขาฮอลแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นแหล่งแร่ลิเธียมที่ใหญ่สุดในโลกร่วมกับบริษัท Wesfarmers คาดการณ์กันว่าปริมาณการขายของ SQM ในปี 2022 จะสูงกว่า 140,000 ตัน

มูลค่าทางการตลาด 25.73 พันล้านดอลลาร์

 

5. Pilbara Minerals (ASX: PLS)
 

Pilbara Minerals ประกอบกิจการผลิตลิเธียมแทนทาลัมในแถบตะวันตกของออสเตรเลียซึ่งจะโรงงานหลักอยู่ 2 แห่งซึ่งโรงงานแรกที่ Pilgangoora จะผลิตสปอดูมีนและแทนทาไลท์ความเข้มข้นสูง และอีกแห่งก็จะผลิตสปอดูมีนความเข้มข้นสูงเช่นกัน ซึ่งใช้ในการผลิตลิเธียมต่อไป

Pilbara Minerals เป็นพันธมิตรกับ Ganfeng, General Lithium, Great Wall Motor ฯลฯ ซึ่งในปี 2021 ได้เข้าซื้อกิจการ Altura Lithium เพื่อขยายกำลังผลิต ทำให้กำไรการช่วงต้นปี 2022 สูงถึง 114 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

มูลค่าทางการตลาด 6.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

6. Allkem (ASX: AKE)
 

จุดเริ่มต้นของ Allkem นั้นก่อตั้งจากการควบรวมบริษัท Argentina-focused Orocobre และ Galaxy Resources ด้วยเงิน 4 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มีสำนักงานใหญ่ในบัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ประกอบกิจการผลิตเคมีภัณฑ์และแร่เป็นหลัก ซึ่งมีทั้งลิเธียม โพแทช และโบรอน

บริษัท Allkem เป็นพันธมิตรกับ Toyota Tsusho และภาคการลงทุนของรัฐบาลเมือง Jujuy เจ้าของบ่อน้ำเกลือสำหรับสกัดลิเธียม ซึ่งมีแผนผลิตลิเธียมคาร์บอเนตถึง 42,500 ตันต่อปี โดยในปี 2022 ทางบริษัทเองก็ตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 3 เท่าให้แล้วเสร็จในปี 2026 ซึ่งจะส่งผลให้ Allkem กลายเป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ใหญ่ติด 3 อันดับแรกในทันที

มูลค่าทางการตลาด 5.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

7. Livent (NYSE:LTHM)
 

Livent เป็นบริษัทย่อยที่แตกมาจาก FMC ในปี 2018 มีพนักงานกว่า 900 คนทั่วโลก มีฐานการผลิตใน สหรัฐ, อังกฤษ, อินเดีย, จีน และ อาร์เจนตินา ซึ่งอาร์เจนติน่าคือแหล่งผลิตลิเธียมที่มีมานานกว่า 20 ปี โดยลิเธียมคาร์บอร์เนตที่ทางบริษัทผลิตจะใช้ในการผลิตลิเธียมไฮดรอกไซด์ต่อไป โดยฐานการผลิตในสหรัฐและจีนจะผลิตลิเธียมไฮดรอกไซด์เกรดสำหรับทำแบตเตอรีโดยตรง

ในปี 2021 Livent ยังคงขยายแผนงานทั้งในสหรัฐ และ อาร์เจนตินา และยังมีสัญญาการผลิตระยะยาว ส่วนในปี 2022 ก็ยังมีสัญญาระยะยาวในการส่งลิเธียมให้กับ General Motors ซึ่งคาดว่าทางค่าย GM ได้จ่ายเงินล่วงหน้าไปถึง 198 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นค่าลิเธียมไฮดรอกไซด์ที่จะเริ่มส่งมอบในปี 2025

มูลค่าทางการตลาด 4.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
 

 

Credit: Priscila Barrera นักเขียนด้านการลงทุน
https://investingnews.com/daily/resource-investing/battery-metals-investing/lithium-investing/top-lithium-producers/