แนวทางใช้เงินหลังเกษียณ
หลังจากวางแผนเกษียณ เก็บออมเงิน และลงทุนมานานหลายปี เมื่อตัดสินใจเกษียณ เงินดังกล่าวก็จะสามารถนำมาใช้ได้ทันที แต่ปัญหาคือหลาย ๆ คนไม่แน่ใจว่าแต่ละปีควรใช้แค่ไหน เงินเกษียณถึงพอใช้ คำตอบที่เหมาะกับทุกคนอาจจะไม่มี เพราะชีวิตหลังเกษียณของบางคนอาจจะยาวนานถึง 25 ปี ไม่ก็สั้นกว่าหรือนานกว่านั้น แผนการใช้เงินหลังเกษียณจึงต้องมีการคิดคำนวณอย่างดีเหมือนกับแผนเก็บเงินเกษียณ
การใช้เงินรายปีให้ยืนยาว วิธีการใช้เงินหลังเกษียณนี้จะคำนวณจากเงินเก็บที่คุณมี แล้วแบ่งถอนมาใช้ในแต่ละปีโดยที่รักษาเงินเก็บไว้ไม่ให้หมดเร็วก่อนตั้งใจ การถอนเงินเพื่อคุมเงินเก็บจะถอนเพียง 4% - 5% ของเงินทั้งหมดในปีแรกหลังการเกษียณ และจะมีการปรับจำนวนเงินเล็กน้อยตามเงินเฟ้อ ซึ่งในสัดส่วนการถอนเงินดังกล่าว จะเป็นตัวบ่งชี้อีกด้วยว่าในแต่ละปีเงินที่เก็บไว้ นอกจากเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันตลอดทั้งปี ยังสามารถนำไปใช้ในด้านความบันเทิงได้มากแค่ไหน เช่น เที่ยวในประเทศ เที่ยวแถบเอเชีย ยุโรป ฯลฯ
ข้อมูลจากอดีต
ข้อมูลในอดีตไม่สามารถใช้ชี้วัดอนาคตได้ แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่เกษียณก็มีผลกับจำนวนเงินที่ถอนออกมาใช้ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น เงินเฟ้อ ผลตอบแทนของตลาด และอายุขัยของคุณเอง เช่น สมมุติว่าช่วงเวลาที่เกษียณคือช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง 2540 เงินที่สามารถนำออกมาใช้ได้ก็อาจแตกต่างจากการเกษียณในช่วงเวลาอื่น ๆ
ประเมินอายุขัยที่มีผ่านสุขภาพปัจจุบัน อีกปัจจัยคือความยืนยาวของชีวิตหลังเกษียณ หากวางแผนไว้ที่ 30 ปี และมีการลงทุนจัดพอร์ตแบบเน้นสมดุล โดยวางอัตราการถอนเงินไว้ที่ 4.5% ต่อปี ก็จะสามารถคุมเงินเก็บได้
แต่ถ้าคุณอยากทำงานต่ออีกซักพัก เช่น ตั้งใจเกษียณตอนอายุ 70 หรือมีสุขภาพโดยรวมที่ไม่ได้ดีนัก การวางแผนชีวิตหลังเกษียณที่สั้นลง เหลือ 25 ปี ก็อาจทำให้อัตราการถอนเงินอยู่ที่ 4.9% ต่อปี แต่ถ้าประวัติครอบครัว รวมถึงชีวิตที่ผ่านมาค่อนข้างแข็งแรง และตั้งใจเกษียณตอน 60 ก็อาจวางแผนชีวิตหลังเกษียณที่ 35 ปี ใช้เงินที่ 4.3% ต่อปี วิธีการลงทุน การลงทุนแบบผสมในระหว่างเกษียณก็มีผลกับการรักษาเงินเก็บเช่นกัน แม้ว่าการจัดพอร์ตให้มีสัดส่วนหุ้นมากกว่าก็อาจจะเติบโตได้สูง แต่ก็มาพร้อมความผันผวนที่สูงตาม
การคงสัดส่วนของสินทรัพย์ให้เหมาะสม จัดพอร์ตเน้นเติบโตคือ มีสัดส่วน หุ้น-70 ตราสารหนี้-25 กระแสเงินสด-5 ก็มีโอกาสที่จะถอนเงินออกมาใช้ได้สูงถึง ถึง 7% สำหรับช่วงเวลา 25 ปี แต่ถ้าเน้นแบบไม่เสี่ยงก็จะมีสัดส่วน หุ้น-20 ตราสารหนี้-50 กระแสเงินสด-30 สามารถตอนเงินมาใช้ได้ที่ปีละ 5.7% สำหรับวัยเกษียณ แม้แต่การถอนเงินมาใช้รายปีก็กลายเป็นเรื่องท้าทายได้ เนื่องจากมีความไม่แน่นอนเข้ามาข้องเกี่ยวหลายอย่าง เช่นอายุขัย ตลาด เงินเฟ้อ ภาษี ฯลฯ ด้านคำแนะนำในบทความก็เป็นเพียงการชี้แนะเบื้องต้น หากคุณต้องการแนวทางที่เหมาะสม และเข้ากับตัวคุณที่สุด คุณสามารถวางแผนเกษียณและออมเงินลงทุนรายเดือนได้ที่ฟิลลิป www.phillipsavingplan.com Credit: https://bit.ly/3V2gOXt
|