หุ้นอเมริกาหลาย ๆ ตัว โดยเฉพาะหุ้นบริษัทค้าปลีก สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในช่วงคริสต์มาส ซึ่งหากนักลงทุนคนไหนสนใจในหุ้นต่างประเทศอยู่แล้ว การซื้อนี้อาจเป็นไฮไลท์สำคัญในการดันผลการดำเนินงานในพอร์ต รอบสุดท้ายก่อนหมดปี 2022 ก็ได้

Amazon.com (NASDAQ: AMZN)
 

Amazon เป็นขาประจำที่ได้ประโยชน์จากวันคริสต์มาส เพราะบนแพลตฟอร์มของ Amazon มีของขวัญให้เลือกมากมาย รวมถึงสินค้าที่ใช้ตกแต่งสถานที่ให้เข้ากับเทศกาลด้วย โดยมีทั้งสินค้าของ Amazon โดยตรง และร้านค้าอื่น ๆ ที่มาร่วมขายบนแพลตฟอร์ม นอกจากค้าปลีกอีกธุรกิจใหญ่ของ Amazon ก็คือ Amazon Web Service ที่ให้บริการคลาวด์ และ API โซลูชั่น

Amazon ครั้งหนึ่งเคยมีมูลค่าการตลาดสูงถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ มีรายได้ที่เติบโตจาก 232 พันล้านดอลลาณื เป็น 485 พันล้านดอลลาร์ในเวลา 4 ปี หุ้น Amazon เองก็ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักจากผลกระทบของโควิด-19 ในปี 2020 มีค่า Beta ที่ 1.33
 

Best Buy Co (NYSE: BBY)
 

บริษัทที่โดดเด่นทั้งหน้าร้านและร้านออนไลน์ คือ Best Buy ซึ่งเป็นร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่ TV, ตู้เย็น, คอมพิวเตอร์ทั้งเดสก์ท็อปและแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน สมาร์ทวอทช์ ไปจนถึง เครื่องเล่นเกม Best Buy มีหน้าร้านกว่า 1,110 แห่งกระจายทั่วทั้งอเมริกาและแคนาดา Best Buy ยังมีบริการ Geek Squad ที่คอยให้บริการด้านการติดตั้งและปรับแต่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามบ้านและสำนักงาน

หุ้น Best Buy มีความน่าสนใจตรงที่มี มูลค่าการตลาดเพียง 14 พันล้าน แต่มี P/E อยู่ที่ 8.71 และจ่ายปันผลมากกว่า 5% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมารายได้ก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
 

Target (NYSE: TGT)
 

ร้าน Target มีคำที่ชาวอเมริกันชื่นชอบคือ “Target run” ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นช่วงลดราคาสินค้าประจำวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งสินค้ามีทั้ง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, อาหาร, เสื้อผ้า, เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ร้าน Target มีหน้าร้านกว่า 2,000 แห่งทั่วอเมริกา

Target ก่อตั้งในปี 1902 ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 450,000 คน มีร้านออนไลน์และเปิดให้ลูกค้าสั่งซื้อและมารับสินค้าเองได้ที่หน้าร้านใกล้บ้าน โดยโปรโมชันลดราคาช่วง Black Friday ของร้านเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะสินค้าอื่น ๆ ที่เหมาะเป็นของขวัญวันคริสต์มาสก็จะลดราคาในช่วงนี้

หุ้น Target มีมูลค่าการตลาดอยู่ที่ 70 พันล้านดอลลาร์ P/E ที่ 17 และจ่ายปันผลที่ 3% แม้จะเป็นหนึ่งในร้านค้าปลีกเจ้าใหญ่ของสหรัฐ แต่หุ้น Target นั้นจัดว่ามีความผันผวนต่ำสุดในบรรดาค้าปลีกด้วยกัน เพราะมีค่า Beta อยู่ที่ 1.02 ช่วงสี่ปีที่ผ่านมารายได้และกำไรของ Target เติบโตต่อเนื่อง แม้จะรายได้ไม่เข้าเป้าบ้าง
 

eBay (NASDAQ: EBAY)
 

ปัจจุบัน eBay ไม่ใช่เว็บไซต์ประมูลสินค้าออนไลน์อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงผู้ชายและผู้ซื้อจากทั่วทั้งโลก เพราะบริการซื้อขายระหว่างบุคคล-บุคคล ไม่ใช่บริการหลักอีกต่อไป แต่ eBay ทำหน้าที่เชื่อมโยงลูกค้าไปยังผู้ค้าปลีก หรือร้านค้าออนไลน์โดยตรง

eBay เดิมก่อตั้งในปี 1995 เริ่มแรกเป็นเว็บประมูลสินค้าออนไลน์ แต่ได้ขยายตัวจนมีพนักงานมากกว่า 10,000 คน หุ้น eBay มีมูลค่าการตลาดที่ 20 พันล้าน แต่มี P/E ที่ดูดีมากอยู่ที่ 2.03 แม้ราคาหุ้นจะตกลงกว่า 50% หลังผ่านจุดสูงสุดในเดือนตุลาคมปี 2021 รายได้เติบโตช้า แต่ eBay สามารถทำไรได้ต่อเนื่อง
 

Etsy (NASDAQ: ETSY)
 

Etsy เป็นเสมือน eBay ให้ศิลปินได้นำเสนอและขายผลงานบนแพลตฟอร์ม ซึ่งจะเชื่อมศิลปิน ดีไซเนอร์ และผู้ประกอบการอื่น ๆ เข้ากับลูกค้า เพื่อขายสินค้าแฮนด์เมดหรือสินค้าวินเทจ โดยหลัก ๆ สินค้าบน Etsy มักจะเป็นงานประดิษฐ์สวย ๆ หรือของขวัญที่มีไม่กี่ชิ้นบนโลก แต่ก็จะมีพวกเสื้อผ้า ของเล่น เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ทำงานศิลป์ ขายด้วยเช่นกัน โดยทาง Etsy ประเมินว่ามีสินค้าราว ๆ 100 ล้านรายการวางขายอยู่บนแพลตฟอร์มของตน

Etsy ได้ IPO ไปเมื่อปี 2015 ถือเป็นหุ้นตัวใหม่สุดจากบรรดาร้านทั้งหมด แต่เปิดตัวมาพร้อมกับรายรับและกำไรที่เติบโตอย่างมากนับตั้งแต่เริ่ม IPO เหนือความคาดหมายของเหล่านักวิเคราะห์ตลาด โดยเฉพาะใน 4 ไตรมาสที่ผ่านมา หุ้น Etsy มีมูลค่าการตลาด 12.6 พันล้านดอลลาร์ พร้อมกับ P/E ต่ำกว่า 36 ถือเป็นหุ้นที่มีความผันผวนสูงตัวหนึ่งด้วยค่า Beta 1.85
 

การซื้อหุ้นค้าปลีกของอเมริกาก่อนคริสมาส์ก็เป็นโอกาสทำเงินผ่านการลงทุนหุ้นต่างประเทศช่วงสุดท้ายของปี สนใจลงทุนติดต่อบริการ Phillip Global Markets ที่เปิดให้ลงทุนในตลาดหุ้นอเมริกา พร้อม Support ตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 02-635-3055 หรือ Line: @phillipglobal (https://lin.ee/q0bIxVg)

Credit: https://www.benzinga.com/money/christmas-stocks