ETFs คืออะไร
ETF ย่อมาจาก Exchange Traded Fund คือ กองทุนรวมชนิดหนึ่ง ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้ซื้อขายได้สะดวกเสมือนหุ้น ซึ่งเป็นวิธีการลงทุนที่ง่าย และมีต้นทุนต่ำ
กองทุน ETF จะรวมลักษณะเด่นต่างๆ ของกองทุนรวมทั่วไปและหุ้นเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่ง ETF จะลงทุนในกลุ่มหุ้นหรือพันธบัตร ในขณะที่นักลงทุนสามารถซื้อและขายกองทุนได้ตลอดวันทำการจนกว่าตลาดปิดเหมือนหุ้น
กองทุน ETF จะอิงผลตอบแทนตามดัชนีอ้างอิงตามที่ระบุไว้ เช่น MSCI India Index ซึ่งนักลงทุนจะได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีดังกล่าวด้วยค่าธรรมเนียมที่น้อยกว่า
กองทุน ETF เปรียบเสมือนหุ้นอย่างไร
- สามารถซื้อและขาย ETF ได้ตลอดเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ เช่นเดียวกับหุ้น
- ใช้ประเภทคำสั่งซื้อขาย กลยุทธ์เดียวกันกับหุ้น เช่น คำสั่งซื้อขาย ณ ราคาตลาดปัจจุบัน คำสั่งซื้อขายทั่วไปที่ระบุราคาแน่นอน เป็นต้น
- ETF ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งราคาจะเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในช่วงระหว่างที่ตลาดเปิดทำการ นักลงทุนจึงสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของราคาได้ เช่นเดียวกันกับหุ้นที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง
กองทุน ETF มีประโยชน์อย่างไร
|
กระจายความเสี่ยงในการลงทุน
กองทุน ETF จะช่วยเปิดประตูให้นักลงทุนเข้าสู่โลกแห่งการลงทุนประเภทต่างๆที่ครอบคลุมทรัพย์สินอุตสาหกรรมในภูมิภาคต่างๆในการลงทุนที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการทุ่มเงินลงทุนทั้งหมดไปที่การลงทุนเพียงชนิดเดียว
|
|
ต้นทุนต่ำ
โดยทั่วไปแล้วต้นทุนของการลงทุนในกองทุน ETF จะต่ำกว่ากองทุนรวม ที่มีผู้จัดการกองทุนทำการคัดเลือกหุ้นเพื่อลงทุนซึ่งลงทุนในทรัพย์สินประเภทเดียวกัน
|
|
มีความโปร่งใส
สำหรับการลงทุนใน ETF นั้น นักลงทุนสามารถรับทราบ ข้อมูลหลักทรัพย์ที่กองทุนถือครอง ผลตอบแทนของกองทุน รวมถึงต้นทุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ในแต่ละวัน
|
|
สะดวกและคล่องตัว
กองทุน ETF ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นนักลงทุนจึงสามารถซื้อ/เพิ่ม หรือขายกองทุน ETF ได้อย่างสะดวก ซื้อง่ายขายคล่อง
|
|
มีสภาพคล่อง
นักลงทุนสามารถซื้อขาย ETF ในตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกเสมือนหุ้นตัวหนึ่ง ด้วยเหตุนี้นักลงทุนจึงสามารถปรับพอร์ตการลงทุน ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาดได้อย่างรวดเร็ว
|
ความแตกต่างระหว่างกองทุนรวมทั่วไปและ ETF
|
กองทุนรวมทั่วไป |
ETF |
ช่องทางการซื้อ/ขาย |
ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม หรือโบรกเกอร์ โดยใช้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ณ สิ้นวันทำการ |
ผ่านโบรกเกอร์ โดยซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ตามราคาปัจจุบัน ในช่วงที่ตลาดเปิดทำการซื้อขาย |
การแจ้งข้อมูลสัดส่วนการลงทุน |
จะมีการแจ้งให้ทราบทุกไตรมาส โดยปกติ 30 วันหลังสิ้นสุดแต่ละไตรมาส |
จะประกาศให้ทราบทุกวันทำการ |
เงินลงทุนขั้นต่ำ |
จะมีการแจ้งให้ทราบทุกไตรมาส โดยปกติ 30 วันหลังสิ้นสุดแต่ละไตรมาส |
1 หุ้น |
ภาระต้นทุนการซื้อขาย |
ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ต้องรับภาระต้นทุนในการซื้อขายต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยต้นทุนจะไปหักลดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในแต่ละวัน |
ผู้ซื้อ/ ขาย แบกรับต้นทุนการซื้อขายนั้นเอง โดยที่ผู้ลงทุนรายอื่นไม่เกี่ยวข้อง |
ค่าใช้จ่าย |
ค่าใช้จ่ายสูงกว่า เพราะมีค่าธรรมเนียมหลายประเภท เช่น ค่าจัดการ ค่าผู้ดูแลผลประโยชน์/ นายทะเบียน และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ซึ่งจะถูกคิดเป็นรายปี |
ค่าใช้จ่ายต่ำกว่า เพราะมีเพียงค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (Commission) ซึ่งจะถูกคิดเมื่อมีการซื้อ/ขาย (ค่าธรรมเนียมจัดการ ถูกคิดรวมใน Spread แล้ว) |